UBO คืออะไร? ทำไมธุรกิจไทยทุกขนาดต้องรู้จัก
'ผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง' ก่อนจะสาย

 
By D&B Thailand

ในโลกธุรกิจที่ทุกการตัดสินใจมีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการลงนามในสัญญาฉบับใหม่, การเปิดเครดิตให้คู่ค้ารายใหญ่ หรือการร่วมทุนในโปรเจกต์มูลค่ามหาศาล ล้วนเริ่มต้นจากสิ่งเดียวกันคือ "ความไว้วางใจ"

แต่คุณแน่ใจแค่ไหนว่าธุรกิจที่คุณไว้วางใจ...คือธุรกิจที่คุณเห็นอยู่ตรงหน้า?

เบื้องหลังชื่อบริษัทที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย อาจมีโครงสร้างความเป็นเจ้าของที่ซับซ้อนซ่อนอยู่ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความเสี่ยงที่คุณอาจไม่เคยคาดคิด

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ UBO (Ultimate Beneficial Ownership) หรือ "ผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง" ตัวแปรสำคัญที่ธุรกิจยุคใหม่ต้องเข้าใจ เพื่อป้องกันไม่ให้ความเสี่ยงที่มองไม่เห็น กลายเป็นระเบิดเวลาที่ทำลายธุรกิจของคุณในอนาคต


ไขความหมาย UBO: ไม่ใช่แค่ 'ผู้ถือหุ้น' ที่เห็นในเอกสาร

คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าการตรวจสอบคู่ค้าทำได้ง่ายๆ เพียงขอดูข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) เพื่อดูว่าใครคือผู้ถือหุ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว นั่นเป็นเพียงยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น เพราะการตรวจสอบคู่ค้ามีรายละเอียดที่ต้องตรวจสอบลึกซึ้งกว่าแค่การดูว่าใครคือผู้ถือหุ้น

 

UBO (Ultimate Beneficial Ownership) หรือ ผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง หมายถึง บุคคลธรรมดาที่ได้รับผลประโยชน์ เป็นเจ้าของ หรือมีอำนาจควบคุมนิติบุคคลในท้ายที่สุด ซึ่งอาจเป็นผู้ถือหุ้นโดยตรงของบริษัท หรือถือหุ้นผ่านนิติบุคคลอื่นซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทนั้นอีกทอดหนึ่ง

พูดง่ายๆ UBO คือ "คนตัวจริง" ที่อยู่เบื้องหลัง ไม่ใช่แค่ชื่อในบัญชีผู้ถือหุ้นที่อาจเป็นเพียงตัวแทน (Nominee) หรือบริษัทที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อบังหน้า (Shell Company)


ทำไมการไม่รู้จัก UBO จึงเป็น 'ระเบิดเวลา' ของธุรกิจ?

การละเลยที่จะตรวจสอบเพื่อหา UBO ไม่ใช่แค่การพลาดข้อมูล แต่คือการเปิดประตูรับความเสี่ยงร้ายแรง 3 ด้าน ที่อาจส่งผลกระทบต่อบริษัทของคุณอย่างประเมินค่าไม่ได้

 

1. ความเสี่ยงด้านกฎหมายและการกำกับดูแล (Legal & Compliance Risk)

ข้อกำหนด : สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กำหนดให้สถาบันการเงินและผู้ประกอบอาชีพบางประเภท มีหน้าที่ทำความรู้จักลูกค้า (Know Your Customer: KYC) ซึ่งครอบคลุมถึงการพิสูจน์ตัวตนและตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า หากธุรกิจของคุณเข้าไปพัวพันกับธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินโดยไม่รู้ตัว อาจต้องเผชิญกับค่าปรับและคดีความ ซึ่งสร้างความเสื่อมเสียต่อธุรกิจได้
 
อุปสรรคในการทำธุรกิจระหว่างประเทศ: มาตรฐานการกำกับดูแลในยุโรปและสหรัฐอเมริกาเข้มงวดกับเรื่อง UBO อย่างมาก การไม่สามารถระบุ UBO ของคู่ค้าได้ อาจทำให้คุณพลาดโอกาสทางธุรกิจหรือถูกปฏิเสธการทำธุรกรรม
 

2. ความเสี่ยงด้านการเงิน (Financial Risk)

การฉ้อโกงและหนี้เสีย: คุณอาจกำลังทำธุรกิจกับบริษัทที่จัดตั้งขึ้นเพื่อฉ้อโกงโดยเฉพาะ เมื่อได้รับสินค้าหรือเงินเครดิตไปแล้ว ก็ปิดบริษัทหนี ทิ้งให้คุณต้องรับภาระหนี้สูญ
 
คู่ค้าที่ขาดเสถียรภาพ: UBO ที่แท้จริงอาจเป็นบุคคลที่มีประวัติทางการเงินไม่ดี ทำให้บริษัทคู่ค้าของคุณขาดความมั่นคง ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและแผนธุรกิจของคุณ
 

3. ความเสี่ยงด้านชื่อเสียง (Reputational Risk)

ความเสียหายต่อแบรนด์: การเข้าไปเกี่ยวข้องกับบริษัทที่มี UBO พัวพันกับการคอร์รัปชัน อาชญากรรม หรือการกระทำที่ไม่เหมาะสม อาจทำลายชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของแบรนด์คุณที่สั่งสมมานานได้ในชั่วข้ามคืน

เหตุใดจึงต้องตรวจสอบ UBO ของคู่ค้าและบุคคลที่สาม?

เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย: การตรวจสอบ UBO เป็นหัวใจสำคัญของหลักการ รู้จักลูกค้า (Know Your Customer: KYC) ตามที่กฎหมายป้องกันการฟอกเงินกำหนด เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจไม่ได้ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำผิด
 
เพื่อเข้าใจโครงสร้างที่ซับซ้อน: ในแวดวงธุรกิจปัจจุบัน โครงสร้างความเป็นเจ้าของมักมีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาในหลายระดับชั้น
 
เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงความเสี่ยง: สัดส่วนการถือหุ้นอาจเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ซึ่งอาจทำให้ระดับความเสี่ยงสูงกว่าหรือต่ำกว่าเกณฑ์ที่คุณกำหนดไว้
 
เพื่อรักษาข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน: การตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอทำให้คุณมีข้อมูลภาพรวมเกี่ยวกับเจ้าของและผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงที่เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ

กรณีศึกษาที่น่ากลัว: เมื่อ 'คู่ค้า' ไม่ใช่คนที่คุณคิด

 

ตัวอย่างสมมติในประเทศไทย: บริษัท A ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์รายใหญ่ ทำสัญญาจัดซื้อวัตถุดิบมูลค่า 50 ล้านบาทกับ "บริษัท B" ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ที่เสนอราคาดีที่สุดและมีเอกสารจดทะเบียนถูกต้องทุกอย่าง แต่หลังจากบริษัท A จ่ายเงินมัดจำก้อนแรกไป การส่งมอบสินค้าก็เริ่มมีปัญหาและขาดการติดต่อไปในที่สุด

เมื่อตรวจสอบเชิงลึกด้วยกระบวนการตรวจสอบ UBO จึงพบว่า ผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงของบริษัท B คือบุคคลเดียวกับอดีตผู้บริหารของบริษัทคู่แข่งที่เคยถูกไล่ออกเพราะทุจริต เขาจัดตั้งบริษัท B ขึ้นมาโดยใช้ชื่อญาติเป็นผู้ถือหุ้นเพื่อหลอกลวงบริษัทอื่นในวงการโดยเฉพาะ


ไม่ว่าธุรกิจเล็กหรือใหญ่ UBO คือเรื่องใกล้ตัว

 

การรู้จัก "ผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง" จึงไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็น เกราะป้องกันที่จำเป็น สำหรับธุรกิจทุกขนาดในปัจจุบัน เพราะการตรวจสอบ UBO ไม่ใช่แค่การปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่คือการบริหารความเสี่ยงเชิงรุก คือการสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับทุกการตัดสินใจ และคือการปกป้องอนาคตของธุรกิจคุณจากภัยมืดที่มองไม่เห็น

 

อย่ารอให้ความเสียหายเกิดขึ้นก่อนจึงเริ่มมองหาทางแก้

 

การตรวจสอบ UBO ต้องอาศัยทั้งข้อมูลที่ครอบคลุม เทคโนโลยีที่ทันสมัย และความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ D&B Thailand ในฐานะผู้ให้บริการข้อมูลธุรกิจระดับโลก พร้อมเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้ในการช่วยคุณ "แกะรอย" และ "เปิดเผย" ตัวตนของผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบ UBO

D&B Beneficial Ownership

 
ค้นหาคู่ค้าทางธุรกิจของคุณและเชื่อมต่อ ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานด้วยเครื่องมือ UBO
 
     
Discover       Connect
Perspectives Products D-U-N-S Number Resources Contact Us
Solutions About Us Careers

© Dun & Bradstreet, Inc. 2000 - 2025. All rights reserved.   Terms of Use    Cookies Policy   Privacy Policy    Privacy Notice    Data Source Attribution    DPS Acknowledgement by ETDA