โลกธุรกิจยุคใหม่ : ESG คืออะไร?
ทำไมธุรกิจและนักลงทุนไม่ควรมองข้าม
ในโลกของธุรกิจยุคใหม่ มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอย่างหนึ่งเกิดขึ้นนั่นก็คือ แนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโลกธุรกิจ โดยมองธุรกิจไปไกลกว่าการมุ่งเน้นไปที่ผลกำไรเท่านั้น แต่นำไปสู่การประเมินปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ที่ครอบคลุมมากขึ้นอีกด้วย ในขณะนี้ ESG จึงได้กลายเป็นส่วนสำคัญในการประเมินประสิทธิภาพและผลกระทบโดยรวมของบริษัท ประเด็นในโลกธุรกิจนี้ทำให้หลายภาคส่วนในประเทศไทยกำลังหันมาให้ความสำคัญและสนับสนุนกับบริษัทที่มีแนวทางการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืนโดยนึกถึง ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลด้วยเช่นกัน
ESG คืออะไร
ESG ย่อมาจาก สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เป็นหนึ่งในแนวทางที่ใช้ในการประเมินผลการดำเนินงานของบริษัทและผลกระทบในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับ 3 ปัจจัยข้างต้น แนวทางด้าน ESG ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับนักลงทุน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และบริษัทเอง เนื่องจากมีเป้าหมายที่จะปรับแนวปฏิบัติทางธุรกิจให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืนและจริยธรรมที่กว้างขึ้น
ประเด็นสำคัญของความยั่งยืน ESG ที่มาจาก :
Environmental (ด้านสิ่งแวดล้อม)
มุ่งเน้นไปที่ผลกระทบของบริษัทต่อสิ่งแวดล้อม (Environmental) รวมถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น การปล่อยก๊าซคาร์บอน ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การจัดการของเสีย การใช้น้ำ และความพยายามโดยรวมในการลดผลกระทบที่เป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม เป็นต้น บริษัทที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมมักจะใช้แนวทางปฏิบัติเพื่อลดรอยเท้านิเวศน์ (Ecological Footprint) และจัดการกับความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ (Climate-related)
รอยเท้านิเวศน์ (Ecological Footprint) สำคัญกับธุรกิจ เนื่องจากเป็นการวัดผลกระทบจากการดำเนินงานที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ โดยเป็นการวัดจากปริมาณการบริโภคและปริมาณขยะหรือของเสียที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงาน แล้วจะมีการนำไปเปรียบเทียบการการฟื้นฟูระบบระบบนิเวศน์
Social (ด้านสังคม)
มิติทางสังคม (Social) จะประเมินความสัมพันธ์ของบริษัทกับพนักงาน ลูกค้า ชุมชน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ซึ่งมีปัจจัยต่างๆ ได้แก่ แนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดี (Good Labour Practices), สนับสนุนความหลากหลายและยอมรับความแตกต่าง (Diversity and Inclusion), สิทธิมนุษยชน (Human Right) การมีส่วนร่วมในชุมชน (Community engagement) และการมีส่วนสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของสังคม (Wellness) เป็นต้น บริษัทที่รับผิดชอบต่อสังคม โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมนอกเหนือจากผลตอบแทนทางการเงิน
Governance (ด้านธรรมาภิบาล)
ธรรมาภิบาล หรือการกำกับดูแล (Governance) คือโครงสร้างและแนวปฏิบัติที่เป็นแนวทางในการตัดสินใจและการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งรวมถึงองค์ประกอบของคณะกรรมการ ค่าตอบแทนผู้บริหาร ความโปร่งใส การดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ การที่บริษัทมีการกำกับดูแลที่เข้มแข็งช่วยให้นักลงทุน หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมั่นใจได้ถึงความรับผิดชอบ ความเป็นธรรม และจริยธรรมภายในองค์กร
จากแนวทางด้าน ESG ที่กล่าวไปข้างต้น นักลงทุนจะใช้เพื่อประเมินความยั่งยืนในระยะยาวของธุรกิจและหลักปฏิบัติด้านจริยธรรมของการลงทุนที่มีศักยภาพ รวมถึงกองทุนรวมที่ลงทุนและสถาบันการเงินหลายแห่งนำแนวทาง ESG มาใช้ในกระบวนการตัดสินใจ โดยตระหนักว่าบริษัทที่มีการดำเนินงานด้าน ESG ที่แข็งแกร่งอาจอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าสำหรับความสำเร็จในระยะยาว และอาจเผชิญกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลน้อยลง
ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) มีความสำคัญมากขึ้นต่อทั้งธุรกิจและนักลงทุน
1. จัดการความเสี่ยง : การนำเอา ESG เข้ากับกลยุทธ์ทางธุรกิจ ช่วยระบุและลดความเสี่ยงต่างๆ รวมถึงความเสี่ยงทางกฎหมาย และข้อกำหนดต่าง ๆ, ความเสี่ยงด้านชื่อเสียง, ความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ (Climate-related) ด้วยการจัดการความเสี่ยงเหล่านี้ในเชิงรุก ธุรกิจต่างๆ จะสามารถเพิ่มความยืดหยุ่นและความอยู่รอดในระยะยาวได้
2. การเข้าถึงเงินทุน : นักลงทุนนำแนวทาง ESG มาใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุนมากขึ้น บริษัทที่มีผลการดำเนินงาน ESG ที่ดีและตรงตามมาตรฐาน อาจสามารถเข้าถึงเงินทุนได้มากกว่า เนื่องจากถูกมองว่าเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าและน่าดึงดูดมากกว่า
3. ความยั่งยืนในระยะยาว : ESG มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความยั่งยืนในระยะยาวของธุรกิจในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ด้วยการรวบรวมปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมเข้ากับการวางแผนเชิงกลยุทธ์และการตัดสินใจ ทำให้บริษัทต่างๆ สามารถสร้างคุณค่าได้ไม่เพียงแต่สำหรับผู้ถือหุ้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสังคมและโลกด้วย
4. ความได้เปรียบทางการแข่งขัน : ESG สามารถสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน โดยการสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจในตลาด บริษัทที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน นวัตกรรม และการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบอาจดึงดูดลูกค้า และเงินลงทุน เพื่อสร้างฐานที่มั่นคงในอุตสาหกรรมของตน
ESG เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนธุรกิจที่นำไปสู่การดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนและมีความรับผิดชอบ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความตระหนักที่เพิ่มขึ้นระหว่างการดำเนินธุรกิจกับความท้าทายทางสังคมและสิ่งแวดล้อมในวงกว้าง
Third-Party Risk